พุธ 14-15.30 ศุกร์ 13-14.30
"ถ้าพูดไป เขาไม่รู้ อย่าขู่เขา ว่าโง่เง่า งมเงอะ เซอะหนักหนา ตัวของตัว ทำไม ไม่โกรธา ว่าพูดจา ให้เขา ไม่เข้าใจ ตนเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด ...ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน ตนเตือนตน ไม่ได้ ใครจะเตือน ตนแชเชือน ใครจะเตือน ให้พ้นภัย..
เหมือนตอนที่หลวงปู่มั่นสอนท่าหลวงตามหาบัวเลยครับ ท่านสอนว่าถ้าท่านจะมาปฏิบัติ ให้ท่านทิ้งคำว่า "มหา" ซะก่อน เพราะหลวงตาได้เรียนมหาเปรียญ 3 ประโยคมาก่อน เพราะมหาส่วนใหญ่จะเอา ความรู้ที่มีมาใช้ซึ่งบางปัญญาที่ได้จะมาจากรู้จำไม่ใช่รู้แจ้ง หลวงปู่มั่นก็เลยบอกให้หลวงตาทิ้งทิฐิมานะ ของคำว่ามหา ของตนได้เสียก่อนแล้วท่านค่อยปฏิบัติ
ลึกล้ำ ๆ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
จากนิทานที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เล่ามานั้น ท่านต้องการที่จะสอนให้เรารู้ว่าการที่เรามีทิฐิ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น หรืออะไรใหม่ๆเข้ามา ถ้าหากยังไม่เปิดใจให้กว้างพอและยังมีทิฐิไม่ยอมฟังใคร มันก็ไม่ต่างอะไรกับชาที่ล้นออกมาเพราะแก้วไม่ยอมว่าง
ข้ามห้วยมาตอบอีกแล้วนะ เจ้า ทิฐิ หน้าตาเป็นยังไง ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเคยเห็นแต่อานุภาพของมัน ช่างยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลต่อชีวิตซะนี้กระไร ต้องหมั่นดูแล ควบคุม มันให้อยู่
5555 ข้ามห้วยมาตอบแล้วก็เพิ่มคะแนนให้หน่อยนะค่ะอาจารย์
คิดว่า....พื้นฐานความรู้ความสามารถ ความคิด ความเชื่อ ความสามารถทางพฤติกรรม ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ล้วนแต่เป็นภูมิปัญญา ถ้าหากเราขาดสิ่งเหล่านี้ก็จะเหมือนชาล้นแก้วเมื่อจะคิดทำอะไรแล้วก็ไม่สำเร็จหรือทำออกมาได้ไม่ดีดังที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้ค่ะ
ครูยัง งง ๆ การเชื่อมโยง ความคิด ความเชื่อ กับ ภูมิปัญญา อยู่นะ ครูคงต้องเทน้ำชาในถ้วยความคิดของครูออกให้มากกว่านี้ จึงจะรับความคิดของสุนิษา ได้อีก
ชาล้นถ้วยเป็นคำพูดที่ไว้ใช้คอยเตื่อนสติคนที่มักคิดว่าตนเองรู้เยอะแล้วเก่งแล้ว แต่ความเข้าใจที่ถูกต้องนั้นยังไม่เต็ม สิ่งเหล้านั้นมันจึงล้นออกมาในรูปของ มิจฉาทิฎฐิเพราะเขาเห็นว่าเขามีอะไรๆของเขาเต็มแล้วแต่ในความจริงมันอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เราจึงต้องใช้ชีวิตให้เป็นชาครึ่งถ้วยเพื่อที่จะรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ถ้าจะพูดอย่างเป็นธรรมะ ก็จะได้ว่า จิตแท้ๆไม่มีวันล้น อันที่ล้นออกมานั้นมันเป็นของปรุงแต่งจิต และสิ่งที่ไม่ใช่จิตแท้คือความคิดที่ปรุ่งแต่งซึ่งมันจะล้นไหลไปเรื่อย
จิตแท้ไม่มีวันล้น WOW
ชาล้นถ้วยเปรียบดั่งผู้ที่คิดว่าตนเองรู้เยอะ เก่งแล้ว ไม่ยอมฟังใคร เป็นผู้ที่ไม่เปิดใจยอมรับสิ่งต่างๆ เต็มไปด้วยทิฐิ ผู้ที่เป็นดั่งชาล้นถ้วยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่สูงศักดิ์หรือต่ำต้อย แต่ถ้าผู้ที่สูงศักดิ์เปรียบเหมือนชาล้นถ้วย ผู้ที่ต่ำต้อยเปรียบเหมือนถ้วยที่ว่างเปล่า สักวันหนึ่งผู้ที่สูงศักดิ์จะเป็นผู้ที่ต่ำต้อยทางปัญญาและผู้ที่ต่ำต้อยจะเป็นผู้ที่สูงศักดิ์ทางปัญญาเลยก็ว่าได้
สวยงาม สวยงาม
เหมือนตอนที่หลวงปู่มั่นสอนท่าหลวงตามหาบัวเลยครับ ท่านสอนว่าถ้าท่านจะมาปฏิบัติ ให้ท่านทิ้งคำว่า "มหา" ซะก่อน เพราะหลวงตาได้เรียนมหาเปรียญ 3 ประโยคมาก่อน เพราะมหาส่วนใหญ่จะเอา ความรู้ที่มีมาใช้ซึ่งบางปัญญาที่ได้จะมาจากรู้จำไม่ใช่รู้แจ้ง หลวงปู่มั่นก็เลยบอกให้หลวงตาทิ้งทิฐิมานะ ของคำว่ามหา ของตนได้เสียก่อนแล้วท่านค่อยปฏิบัติ
ตอบลบลึกล้ำ ๆ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบจากนิทานที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เล่ามานั้น ท่านต้องการที่จะสอนให้เรารู้ว่า
ตอบลบการที่เรามีทิฐิ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น หรืออะไรใหม่ๆเข้ามา
ถ้าหากยังไม่เปิดใจให้กว้างพอและยังมีทิฐิไม่ยอมฟังใคร
มันก็ไม่ต่างอะไรกับชาที่ล้นออกมาเพราะแก้วไม่ยอมว่าง
ข้ามห้วยมาตอบอีกแล้วนะ
ลบเจ้า ทิฐิ หน้าตาเป็นยังไง ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเคยเห็น
แต่อานุภาพของมัน ช่างยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลต่อชีวิตซะนี้กระไร ต้องหมั่นดูแล ควบคุม มันให้อยู่
5555 ข้ามห้วยมาตอบแล้วก็เพิ่มคะแนนให้หน่อยนะค่ะอาจารย์
ลบคิดว่า....พื้นฐานความรู้ความสามารถ ความคิด ความเชื่อ ความสามารถทางพฤติกรรม ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ล้วนแต่เป็นภูมิปัญญา ถ้าหากเราขาดสิ่งเหล่านี้ก็จะเหมือนชาล้นแก้วเมื่อจะคิดทำอะไรแล้วก็ไม่สำเร็จหรือทำออกมาได้ไม่ดีดังที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้ค่ะ
ตอบลบครูยัง งง ๆ การเชื่อมโยง ความคิด ความเชื่อ กับ ภูมิปัญญา อยู่นะ ครูคงต้องเทน้ำชาในถ้วยความคิดของครูออกให้มากกว่านี้ จึงจะรับความคิดของสุนิษา ได้อีก
ลบชาล้นถ้วยเป็นคำพูดที่ไว้ใช้คอยเตื่อนสติคนที่มักคิดว่าตนเองรู้เยอะแล้วเก่งแล้ว แต่ความเข้าใจที่ถูกต้องนั้นยังไม่เต็ม สิ่งเหล้านั้นมันจึงล้นออกมาในรูปของ มิจฉาทิฎฐิเพราะเขาเห็นว่าเขามีอะไรๆของเขาเต็มแล้วแต่ในความจริงมันอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เราจึงต้องใช้ชีวิตให้เป็นชาครึ่งถ้วยเพื่อที่จะรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา ถ้าจะพูดอย่างเป็นธรรมะ ก็จะได้ว่า จิตแท้ๆไม่มีวันล้น อันที่ล้นออกมานั้นมันเป็นของปรุงแต่งจิต และสิ่งที่ไม่ใช่จิตแท้คือความคิดที่ปรุ่งแต่งซึ่งมันจะล้นไหลไปเรื่อย
ตอบลบจิตแท้ไม่มีวันล้น WOW
ลบชาล้นถ้วยเปรียบดั่งผู้ที่คิดว่าตนเองรู้เยอะ เก่งแล้ว ไม่ยอมฟังใคร เป็นผู้ที่ไม่เปิดใจยอมรับสิ่งต่างๆ เต็มไปด้วยทิฐิ ผู้ที่เป็นดั่งชาล้นถ้วยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่สูงศักดิ์หรือต่ำต้อย แต่ถ้าผู้ที่สูงศักดิ์เปรียบเหมือนชาล้นถ้วย ผู้ที่ต่ำต้อยเปรียบเหมือนถ้วยที่ว่างเปล่า สักวันหนึ่งผู้ที่สูงศักดิ์จะเป็นผู้ที่ต่ำต้อยทางปัญญาและผู้ที่ต่ำต้อยจะเป็นผู้ที่สูงศักดิ์ทางปัญญาเลยก็ว่าได้
ตอบลบสวยงาม สวยงาม
ลบ